เมนู

ปัญหาวาระ


อนุโลมนัย


1. เหตุปัจจัย


[175] 1. สัปปัจจยธรรม เป็นปัจจัยแก่สัปปัจจยธรรม ด้วย
อำนาจของเหตุปัจจัย.

คือ เหตุทั้งหลาย ที่เป็นสัปปัจจยธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์
และจิตตสมุฏฐานรูปทั้งหลาย ด้วยอำนาจของเหตุปัจจัย.
ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ

2. อารัมมณปัจจัย


[176] 1. สัปปัจจยธรรม เป็นปัจจัยแก่สัปปัจจยธรรม ด้วย
อำนาจของอารัมมณปัจจัย.

คือ บุคคลให้ทาน สมาทานศีล กระทำอุโบสถกรรม ฯลฯ แล้ว
พิจารณาซึ่งกุศลกรรมนั้น.
บุคคลพิจารณากุศลกรรมทั้งหลาย ที่เคยสั่งสมไว้แล้วในกาลก่อน.
ออกจากฌานแล้ว พิจารณาฌาน.
พระอริยะทั้งหลายออกจากมรรค พิจารณามรรค, พิจารณาผล, กิเลส
ที่ละแล้ว ฯลฯ กิเลสที่ข่มแล้ว ฯลฯ รู้ซึ่งกิเลสทั้งหลายที่เคยเกิดขึ้นแล้ว
ในกาลก่อน.

บุคคลพิจารณาเห็นจักษุ ฯลฯ หทยวัตถุ ฯลฯ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็น
สัปปัจจยธรรม โดยความเป็นของไม่เที่ยง ฯลฯ โทมนัส ย่อมเกิดขึ้น.
บุคคลเห็นรูปด้วยทิพยจักษุ, ฟังเสียงด้วยทิพโสตธาตุ.
บุคคลรู้จิตของบุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยจิต ที่เป็นสัปปัจจยธรรม ด้วย
เจโตปริยญาณ.
อากาสานัญจายตนะ เป็นปัจจัยแก่วิญญาณัญจายตนะ, อากิญ-
จัญญายตนะ เป็นปัจจัยแก่เนวสัญญานาสัญญายตนะ.
รูปายตนะ เป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณ ฯลฯ โผฏฐัพพายตนะ เป็น
ปัจจัยแก่กายวิญญาณ.
ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นสัปปัจจยธรรม เป็นปัจจัยแก่อิทธิวิธญาณ แก่
เจโตปริยญาณ แก่บุพเพนิวาสานุสสติญาณ แก่ยถากัมมูปคญาณ แก่
อนาคตังสญาณ แก่อาวัชชนะ ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย.
2. อัปปัจจยธรรม เป็นปัจจัยแก่สัปปัจจยธรรม ด้วย
อำนาจของอารัมมณปัจจัย

คือ พระอริยะทั้งหลาย พิจารณานิพพาน.
นิพพาน เป็นปัจจัยแก่โคตรภู, แก่โวทาน, แก่มรรค, แก่ผล แก่
อาวัชชนะ ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย.

3. อธิปติปัจจัย


[177] 1. สัปปัจจยธรรม เป็นปัจจัยแก่สัปปัจจยธรรม ด้วย
อำนาจของอธิปติปัจจัย